#รอยเชื่อมไร้ที่ติ…เริ่มต้นที่การเลือกโลหะเติมที่ใช่ – มาดูกันเลย !!!

#รอยเชื่อมไร้ที่ติ…เริ่มต้นที่การเลือกโลหะเติมที่ใช่ – มาดูกันเลย !!!

.

.

.

สวัสดีครับ…มีลูกศิษย์หลายๆคนในคอร์สข้อกำหนดขั้นตอนปฏิบัติงานเชื่อม หรือ WPS (Welding  Procedure  Specification)

ถามว่าจะเลือกลวดเชื่อม

หรือโลหะเติม (Filler Metal) อย่างไรดี…มีวิธีเลือกยังไงบ้าง ???

.

เป็นคำถามที่คลาสสิค…แต่ก็เก็บซ่อนอะไรบางอย่างไว้เยอะเหมือนกัน…

วันนี้จะมาเล่าสู่กันฟังครับ…เผื่อเป็นประโยชน์กับทุกท่าน…

.

.

.

การเลือกโลหะเติม หรือ ลวดเชื่อม…เนี่ย “ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ” นะครับ 

#วิธีที่ง่ายสุดๆ คือเลือกลวดเชื่อมที่ความแข็งแรงสอดคล้องกับโลหะที่เราจะเชื่อมครับ 

(อ้าว…ตอบแบบนี้…แก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลยครับ 555)

.

.

มาดูกันต่อครับ…หลักการก็เป็นอย่างนั้นจริง…แต่มันมี step ของมันนะครับ

เดี๋ยวเรามาดู…ไล่เรียงกันไปครับ 

เริ่มกันเลย !!



หมายความว่า…”ความแข็งแรงของลวดเชื่อมควรเท่ากับหรือมากกว่าของชิ้นงาน”

แต่อย่างว่า…#มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป…

.

เอ๊ะ…มันมีอะไรมากกว่านั้นอีกหรอ…??

บางครั้ง…การใช้ลวดเชื่อมที่ความแข็งแรงน้อยกว่าก็อาจจะดีกว่าเยอะนะ

มีหลายเรื่องที่ต้องคิดเมื่อเลือกลวดเชื่อมที่ใช่ 

ต้องเข้าใจเรื่อง

- ความแข็งแรง 

- ความเหนียว 

- ความทนทานต่อการสึกหรอ 

- การต้านทานการกัดกร่อน 

- ความต้องการในการใช้งานจริง 

- ต้นทุน และประสิทธิภาพ และๆๆๆๆ

มันสำคัญมากๆ

มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง…ที่ต้องคิดถึงเวลาจะเลือกลวดเชื่อมในออกแบบข้อกำหนดขั้นตอนปฏิบัติงานเชื่อม หรือ WPS 

.

นั่นคือ…การเลือกลวดเชื่อมตาม….+++

1. ใช้ลวดเชื่อมความแข็งแรงที่สอดคล้องกัน หรือ #Matching Strength

สมาคมการเชื่อมของอเมริกา (American Welding Society) เค้าไม่ได้กำหนดคำว่า “ความแข็งแรงที่สอดคล้องกัน หรือ Matching Strength” อย่างเป็นทางการ 

แต่ในวงการมันหมายถึงว่า

“ลวดเชื่อมมีความแข็งแรงที่เท่าหรือมากกว่าชิ้นงาน (Base Metal)”

.

การตัดสินใจว่าจะใช้ลวดเชื่อมที่แข็งแรงตรงกันหรือไม่ 

ขึ้นอยู่กับประเภทของรอยเชื่อมและสภาพการใช้งานจริง 

.

ส่วนใหญ่แล้ว เราจะใช้ลวดเชื่อมที่แข็งแรงตรงกันในรอยเชื่อมที่ต้องรับแรงดึง 

แต่มันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยหรือคุ้มค่าที่สุดเสมอไป

บางทีมาตรฐานอาจจะกำหนดโลหะเติมที่ตรงกันมาให้ อย่างใน #AWS D1.1 

สำหรับการเชื่อมโครงสร้างเหล็ก 

เค้าก็จะบอกไว้ในข้อ #Prequalification (มาตรา 5 ในฉบับล่าสุด - 2020) 

ว่าควรใช้โลหะเติมแบบไหน 

.

.

#แต่ก็อย่าเพิ่งคิดว่าอันนี้ดีที่สุด 

เข้าใจความต้องการของรอยเชื่อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะ…

#การใช้ลวดเชื่อมที่แข็งแรงน้อยกว่าบางทีก็เวิร์คกว่าก็ได้ครับ 

.

นั่นคือ

2. ใช้ลวดเชื่อมความแข็งแรงที่ต่ำกว่า หรือ #Undermatching Strength

เอ๊ะมันน่าสงสัยว่า…ลวดเชื่อมที่แข็งแรงต่ำกว่า มันจะดีกว่ายังไงมาดูกันครับ 

.

แทนที่จะเน้นว่าจะใช้ลวดเชื่อมที่ตรงกันเมื่อไหร่ 

ลองมาดูกันดีกว่าว่าเมื่อไหร่ที่เราควรใช้ลวดเชื่อมที่แข็งแรงน้อยกว่า 

ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าเป็นไอเดียที่แย่… >__< 

แต่จริงๆ แล้วมันมีประโยชน์นะ

.

เมื่อรอยเชื่อมต้องรับแรงมาก ความแข็งแรงที่สูงขึ้นมักจะ#ทำให้ความเหนียวลดลง

ซึ่งหมายความว่ารอยเชื่อมอาจจะมีโอกาสแตกร้าวได้ง่ายขึ้น 

(#เน้นตรงนี้เลย…ความรู้ทางวิศวกรรม…เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงมักจะมาพร้อมกับความเหนียวที่ลดลงหรือเปราะ (Brittle) ขึ้นนั่นเอง…

.

อาจสังเกตดูได้จากค่าเปอร์เซ็นต์การยืดตัวภายหลังการดึงขาด หรือ %elongation ในสเปคเหล็กต่างๆครับ) 

.

ถ้าเราใช้ลวดเชื่อมแข็งแรงน้อยกว่า รอยเชื่อมจะเหนียวขึ้นและสามารถรับแรงที่เกิดขึ้นได้ดีขึ้นโดยไม่มีการแตกร้าว หรือโอกาสน้อยลงมาก…!!!

.

อ้าว…มีความคิดว่า…ก็ลวดเชื่อม (Filler Metal) มันแข็งแรงน้อยกว่านะ….แล้วรอยต่อเชื่อม (Weld Joint) จะแข็งแรงเท่ากับชิ้นงานได้ยังไง…???

.

ดูมันขัดแย้งกันนะ…อันนี้มีคำอธิบายกันครับ

มาดูกันว่า… 

.

#ต้องแยกกันก่อนระหว่าง “#ลวดเชื่อม (Filler Metal)”  และ “#รอยต่อเชื่อม (Welded Joint)”

.

อันนี้คนละตัวกันนะครับ

ลองจินตนาการว่า…

ลวดเชื่อม (Filler Metal) เสมือนกิ่งไม้ 1 กิ่ง…ถ้าใช้มือหักก็คงหักได้ไม่ยากนัก

ถ้าจะใช้กิ่งไม้นี้รับแรงอะไรก็คงได้ไม่มากเท่าไหร่ใช่ไหมครับ

.

ต่อมา…รอยต่อเชื่อม (Welded Joint) เป็นรอยต่อที่ทำให้ชิ้นงานติดกันอย่างมั่นคง…ก็จินตนาการเหมือนกิ่งไม้สักร้อยหรือพันกิ่งมัดรวมกัน…

อันนี้น่าจะหักได้ยากใช่ไหมครับ

.

น่าจะเห็นภาพแล้วนะครับว่า…ถึงแม้เลือกลวดเชื่อมที่มีความแข็งแรงต่ำกว่าแต่ถ้ารอยต่อถูกออกแบบให้มีขนาดที่โตเพียงพอก็สามารถรับแรงได้ดีด้วยนะ 

.

.

แต่ข้อระวัง !!!…หลักการนี้ใช้สำหรับ 

ในรอยเชื่อมฟิลเลต (Fillet Weld) หรือรอยเชื่อมที่หลอมละลายซึมลึกบางส่วน (PJP) #เท่านั้นนะครับ 

.

ในหลายๆ กรณี โดยเฉพาะในรอยเชื่อมฟิลเลต เราสามารถใช้ลวดเชื่อมที่แข็งแรงน้อยกว่าได้แค่เพิ่มขนาดรอยเชื่อมได้…^___^ 

ซึ่งต้องใช้ลวดเชื่อมมากขึ้นและเวลาการเชื่อมมากขึ้น 

แต่….#เราก็จะลดความเสี่ยงต่อการแตกร้าวลงได้ 

ซึ่งในระยะยาวจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก

.

.

รอยเชื่อม PJP ก็เช่นกัน เราสามารถทำให้รอยเชื่อมใหญ่ขึ้นเพื่อชดเชยความแข็งแรงที่ต้องการ และยังคงมีความเหนียวสูงกว่าการใช้ลวดเชื่อม Matching Strength ที่แข็งแรงดีกว่ากันอีก 

.

.

#วิศวกรเชื่อมควรเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการใช้ลวดเชื่อม (Matching Strength) หรือที่แข็งแรงน้อยกว่า (Undermatching Strength) 

อย่างไรก็ตาม…สำหรับเหล็กโครงสร้างทั่วไป การใช้ลวดเชื่อม Matching Strength #ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย 

แต่ถ้าเป็นเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง ควรคิดถึงการใช้ลวดเชื่อมที่แข็งแรงน้อยกว่าดู…ก็เป็นทางเลือกหนึ่งครับ 

.

#โดยเฉพาะในมาตรฐาน AWS D1.1 

CLAUSE 4. DESIGN OF WELDED CONNECTIONS, Table 4.3 

ได้กำหนดแนวทางการเลือก #Required Filler Metal Strength Level ไว้ ลองศึกษาเพิ่มเติมดูนะครับ 

.

.

ก็ยาวพอสมควรแล้ว…น่าจะประมาณนี้ครับ

เดี๋ยวตอนหน้าจะเล่าสู่กันฟังไปเรื่อยๆนะครับ ^___^

.

หวังว่าคงเป็นประโยชน์นะครับ

อาจารย์โอ 


ความคิดเห็น

มือใหม่หัดเป็น...อินสเป็คเตอร์

EP 01: วิธี....ตัดสินใจชัดๆ.... “ทำมั้ยต้อง.... พรีฮีต (Pre-heat) ???”

กว่าจะมาเป็น...ASNT NDT Level 3 (ฉบับประสบการณ์)

มุมมองหนึ่งกับเส้นทางชีวิตตนรักงานเชื่อมคร้าาบ...^-^